หวาย ปัญญ์ธิษา มั่นใจ คนโฟกัสอกบึ้ม ทำมาเพื่อการนี้ ทำทั้งทีให้รู้กันไปเลยว่าทำ
หวาย ปัญญ์ธิษา มั่นใจ / เซ็กซี่ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักร้องสาว หวาย ปัญญ์ธิษา ร้านขายยาใกล้ฉัน ร้านขายยา ร้านขายส่งยา แถมล่าสุดจัดคอสตูมขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ก็ทำเอาคนโฟกัสไปที่หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่สะบึ้ม จนละสายตาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้สาวหวาย ได้ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน So Glam So Glow Party เปิดตัวแบรนด์ BELOTERO Lips ที่โรงแรม Pullman Bangkok Grande Sukhumvit Asoke ว่าทำมาก็เพื่อการนี้ และทำทั้งทีก็ให้รู้ไปเลยว่าทำ พร้อมกันนี้ เธอยังอัปเดตว่า ตอนนี้กลับมาเต็มที่กับงานเพลง และพร้อมชนทุกกระแสโซเชียล
เรื่องความสวยความงามให้ความสำคัญยังไงบ้าง? “ความจริงแล้วก็ค่อนข้างให้ความสำคัญนะ เพราะว่าหวายเป็นคนชอบอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบิวตี้อยู่แล้ว และเป็นคนรักความสวยความงามอยู่แล้ว ก็เลยค่อนข้างที่จะโฟกัสเรื่องนี้ค่ะ”
ดูแลตัวเองหลักๆ เน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ? “จริงๆ แล้วก็เรื่องสติ (หัวเราะ) ที่จริงปกติก็จะพยายามทำให้หน้าใสที่สุด เพราะช่วงตอนเด็กๆ หวายจะไม่ค่อยมีสิว แต่พอโตขึ้นมาไม่รู้ทำไมสิวขึ้นตลอดเวลา ก็เลยพยายามที่จะกินอะไรที่มันทำให้เราเฮลตี้จากข้างในและออกมาข้างนอก”
ตอนเด็กๆ ไม่ขึ้น มาขึ้นตอนนี้? “ใช่ค่ะ เพื่อนๆ ก็งงบอกว่าสลับกัน เพราะว่าเมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็จะสิวเยอะ แต่ตอนนี้นางคือไม่มีสิวเลย เราก็สลับกัน”
ตอนเด็กๆ เรามักจะถูกพูดเรื่องทำสวย ที่อาจจะเยอะไป เราให้กำลังใจตัวเองยังไง? “ที่จริงแล้วหวายรู้สึกว่าการทำอะไรแบบนี้มันเป็นทางที่จะช่วยหลายๆ คนเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองด้วย รู้สึกว่าถ้าใครทำแล้วสบายใจก็ทำดีกว่า แต่ถ้าใครรู้สึกไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ แต่สำหรับตัวหวายเองมีช่วงแรกๆ เลยที่เพิ่งทำปาก หลายปีแล้ว และที่นี่ยังไม่ค่อยมีใครทำกัน ไม่ได้ถือว่านำเทรนด์นะ แต่ตอนนั้นน่าจะเป็นคนแรกๆ ที่ทำแล้วออกสื่อ เพราะเห็นไคลี่ เจนเนอร์ทำ เราก็เลยไปทำตาม
ทีนี้มันเป็นฟีลที่เราก็สายฟอมาก เอ็นจอยกับตรงนี้มาก แต่บางทีเราก็ไม่ได้ดูว่ามันเหมาะกับใบหน้าเราหรือเปล่า คือเราก็แค่บอกหมอว่าฉีดให้มันฟูที่สุดเท่าที่ทำได้ อยากเป็นไคลี่มาก แต่พอผ่านมาสักระยะหนึ่งเราถึงมาคิดว่าการที่จะทำอะไรแบบนี้มันอาจจะต้องดูที่รูปหน้าเราด้วย ปากฟูมันอาจจะไม่ได้เหมาะกับเรา เพราะพอเรามาทำเรื่องฉีดปาก เราก็สามารถที่จะเลือกได้ ว่าเราอยากให้มันเป็นรูปทรงนี้นะ บางทีมันไม่ต้องฟูตลอดก็ได้”
ผ่านมาหลายกระบวนการแล้ว คิดว่าเชี่ยวชาญหรือยังว่าอันไหนเหมาะกับเรา? “ก็ไม่ได้เยอะนะ ที่ผ่านมาก็แค่ฉีดปากและทำน่ม น๊มเอง (ยิ้ม)”
แต่น่ม น๊มเราก็ยิ่งใหญ่บนเวทีคอนเสิร์ตนะ? “อยู่แล้ว ก็ทำมาเพื่อให้มันยิ่งใหญ่ไง (หัวเราะ) (คนบอกบัตร 2500 ยังเห็นเลย?) “บ้าบอ จริงหรือเปล่าเนี่ย แหม ไหนๆ ก็ทำมาแล้วก็ทำให้เขารู้หน่อยว่าทำ”
พอมีคนแซวแล้วเขินมั้ย? “บางทีก็มีที่เราเขินบ้าง จะบอกว่าไม่เขินเลยก็เป็นไปไม่ได้ แต่ว่าส่วนมากสำหรับตัวหวายแค่รู้สึกมั่นใจขึ้นมากกว่า ว่าเราใส่อะไรก็รู้สึกว่ามันได้ แต่ตอนนี้อาจจะเซ็งๆ นิดนึง เพราะตอนที่ทำตอนนั้นเรากำลังโตขึ้น น้ำหนักเริ่มลงไปเยอะ ก็รู้สึกว่าแบนไปหมดเลย ก็เลยขอสักนิด แต่ตอนนี้พอเริ่มน้ำหนักขึ้นก็เริ่มเอ๊ะยังไง แต่ก็มั่นใจค่ะ (ยิ้ม)”
ต้องทำให้บาลานซ์ใช่มั้ย เพราะตอนที่ทำเราก็อยากให้มันโดดเด่น? “ใช่ ทำแล้วก็อยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง และอยากทำมาแล้วรู้สึกว่ามันคือตัวของเรา ไม่อยากทำแล้วรู้สึกว่าเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย”
เพราะคนมองว่าในคอนเสิร์ตเราก็กลับมาท็อปฟอร์มทั้งการร้อง ทั้งชุด? “ขอบคุณค่ะ (หัวเราะ) ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะบอกตรงๆ ว่าเราก็ห่างหายจากตรงนี้ไปค่อนข้างที่จะนานอยู่เหมือนกัน พอได้กลับมาเห็นฟีดแบ็กเราก็ตกใจ รู้สึกดีใจมากที่ทุกวันนี้คนหันกลับมาให้พลังบวกกับหวาย และให้กำลังใจหวายด้วย และอยากจะบอกขอบคุณทุกคนด้วยนะคะ และตอนนี้มีเพลงใหม่นะคะ ฝากด้วยนะคะ ชื่อเพลงว่า ให้พูดได้ไหม ค่ะ มีน้องเน็ต สิรภพ มาเป็นพระเอกค่ะ (ยิ้ม)”
พอโตเต็มวัยแล้ววางแผนกลับมาทำงานในวงการยังไงบ้าง? “ตอนนี้ก็ทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ ก็ยังเอ็นจอยกับการร้องเพลงอยู่ บางเพลงอาจจะไม่แมสเท่าเมื่อก่อนนะคะ แต่ว่าเราทำเพราะเรารักตรงนี้และชอบตรงนี้ มันมีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกว่าอยากที่จะหายไปเลยจากตรงนี้ แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่เรารักมากๆ จริงๆ ก็เลยไม่อยากทิ้งตรงนี้ไป ยังไงก็ถ้าใครวันไหนไม่มีอะไรฟังก็สามารถฟังเพลงหวายได้นะคะ (ยิ้ม)”
กลับมาครั้งนี้เรามีภูมิคุ้มกันกับโซเชียลแล้วใช่มั้ย? “พร้อมมาก เพราะรู้สึกว่าทุกคนก็พร้อมรักเราเหมือนกัน และอยากจะขอบคุณทุกคนอีกทีนึง เพราะว่าแต่ละฟีดแบ็กที่หวายได้อ่านมาจากคอมเมนต์ มันเปลี่ยนไปเลย พลิกจากเมื่อก่อนที่เป็นด้านลบ กลายเป็นบวกมาก หวายคิดว่ามันเป็นเพราะสังคมบ้านเราตอนนี้มันค่อนข้างจะเปิดรับมากๆ กับการที่จะเห็นศิลปินเป็นตัวของตัวเอง หวายก็รู้สึกดีใจแทนศิลปินคนอื่นด้วยที่ในยุคนี้มันเป็นแบบนี้แล้ว”
แสดงว่าสิ่งที่เราเคยเผชิญมา ไม่อยากอยู่วงการ ไม่อยากทำเพลง มันหายไปหมดแล้ว? “หายไปหมดเลย ตอนนี้พร้อมสู้ค่ะ (ยิ้ม)”
อ่านข่าวเพิ่มได้ที่ : https://www.khaosod.co.th